การซื้อโฆษณาบนลาซาด้าและช้อปปี้ด้วย Sponsored Search Ads
แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้สินค้าที่ถูกขายอยู่บนลาซาด้าและชอบปี้มีจำนวนมากมายมหาศาล พร้อมทั้งการแข่งขันที่ดุเดือด ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้จักเส้นทางลัดที่จะเพิ่มการมองเห็นสินค้าของคุณให้มากขึ้น โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือสปอนเซอร์เสิรชได้ (Sponsored Search) โดยวันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือนี้อย่างละเอียด รวมถึงข้อดีของการใช้เครื่องมือ และวิธีการใช้ Sponsored Search อย่างไรให้เกิดประโยนชน์สูงสุด
สำหรับวิธีการตั้งค่าต่างๆแบบพื้นฐาน สามารถไปหาวิดีโอ เรียนเอาเองตามออนไลน์ได้เยอะแยะมากมาย แต่สิ่งที่ผมจะพูดนี้จะเป็นวิธีการเชิงลึก บวกกับการวิเคราะห์เชิงประสบการณ์ที่ผมเคยทำและให้คำแนะนำบริษัทต่างๆ ให้ทุกคนลองเอาไปประยุกต์ใช้ดู
หลักการซื้อโฆษณาสปอนเซอร์เสิช คือ เราสามารถกำหนดงบประมาณรายวัน เลือกคำค้นหา และกำหนดมูลค่าต่อคำค้นหา เช่น ประมาณรายวัน 100 บาท เลือกคำค้นหาหนึ่งคำคำว่ากีตาร์ไฟฟ้า โดยมูลค่าต่อหนึ่งคำ(cpc) 20 บาท นั่นหมายความว่าหากโฆษณาของคุณถูกคลิก 1 ครั้ง คุณจ่ายเงินไป 20 บาท และโควต้างบประมาณรายวันของคุณอยู่ที่ 100 บาท หมายความว่า ถ้าวันนี้โฆษณาของคุณถูกคลิก 5 ครั้ง งบประมาณโฆษณาวันนั้นคุณก็จะเต็ม

ประเด็นสำคัญอยู่ที่มูลค่าต่อหนึ่งคำค้นหา CPC เพราะแน่นอนว่าเราไม่ใช่ผู้ขายเพียงคนเดียวที่ซื้อโฆษณา sponsored search เราจะมีคู่แข่งที่ซื้อโฆษณาเหมือนกัน โดยมูลค่าต่อคำค้นหา จะเป็นตัวกำหนดอันดับสินค้าในการแสดงผลการค้นหา หรือพูดง่ายๆว่า ถ้าเราสามารถจ่าย CPC ในราคาที่แพงกว่าคนอื่นได้ สินค้าของเราก็จะอยู่ในอันดับที่ดีกว่า โดยระบบของลาซาด้าและชอบปี้จะประเมินมูลค่าคำค้นหามาให้คุณเลือกเข้าคร่าวๆ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อคุณจ่ายเงินลงโฆษณาแล้วจริงๆ มูลค่าต่อคำ ค้นหาจริงๆอาจจะสูงหรือต่ำกว่า ต้องมีการวัดผลและปรับแก้ไขกันต่อๆไป
โดยกลยุทธ์การปรับอันดับสินค้าให้อยู่ในอันดับดีขึ้น(จากการทดสอบเอง) ก็คือ เพิ่ม CPC โดยผมจะแนะนำให้เพิ่มทีละ 0.01 บาท และลองวัดผลดู 7 วัน เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลจากการแสดงผลสินค้าและจำนวนคลิกที่เปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งการปรับ CPCP แบบนี้ จะทำให้เราประหยัดค่าโฆษณาได้
ยกตัวอย่าง หากสินค้าหนึ่งๆในคำค้นหา CPC อันดับที่ 1 มีคนตั้งไว้ที่ราคา 5 บาท หากคุณตั้งเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 บาท สินค้าของคุณก็จะอยู่อันดับ 1 แล้ว ไม่ว่าคุณจะตั้งไว้ 6 บาท 8 บาท หรือแม้กระทั่ง 5.01 บาทก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ผมแนะนำ คือ การเพิ่มอันดับการค้นหาด้วยต้นทุนที่ประหยัดที่สุด แต่อาจจะใช้เวลาในการวัดผล
ข้อเสียหนึ่งของโฆษณาบนลาซาด้าและชอบปี้ คือเราไม่สามารถวัดผลอันดับของสินค้าได้อย่างชัดเจน ต่างกับ Google พี่ซื้อโฆษณาแล้วสามารถวัดผลได้ว่าคุณได้ตำแหน่งผลการค้นหาที่เท่าไหร่

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ระบบของลาซาด้าในช็อปปี้จะแนะนำคำค้นหาให้เราเป็นจำนวนมาก แต่บางคำก็เป็นคำที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าซะทีเดียว ดังนั้น เราต้องเข้าไปตรวจสอบทุกๆคำค้นหา ว่าคำไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับสินค้าของเรา ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเสียค่าโฆษณาไปฟรีๆกับคำที่มีผลการค้นหาจำนวนมากแต่ไม่ตรงกับสินค้า โดยในขั้นตอนนี้ผมแนะนำให้ทุกคนเลือกการตั้งโฆษณาแบบตั้งค่าเองทั้งหมด แน่นอนว่ามันจะยุ่งยากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่รับรองว่าคุณจะไม่เสียเงินไปกับการโฆษณาแบบไร้ความหมาย
เช่น ผมขายสินค้าตัวหนึ่งเป็นถุงมือทำสวน คำค้นหาที่ลาซาด้าในช็อปปี้แนะนำ มีทั้งถุงมือทำสวน ถุงมือทำไร่ ถุงมือแบกของ ถุงมือมอไซ ถุงมือขับรถ etc. ซึ่งถ้าเราเลือกให้ระบบกำหนดคำค้นหาให้ สินค้าของเราจะไปแสดงในกลุ่มคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวกับสินค้าโดยตรง
และที่สำคัญที่สุด การเข้าไปดูคำค้นหาที่ระบบของลาซาด้าและช็อปปี้แนะนำมาให้ จะทำให้เรารู้ถึงเทรนด์ว่าคนนิยมค้นหาคำว่าอะไรที่ใกล้เคียงกัน และคุณสามารถเอาคำเหล่านั้น มาใส่เพิ่มเติมในเนื้อหาสินค้าของคุณ เมื่อเรามีคำค้นหาที่ตรงกับคำที่ลูกค้าใช้ แน่นอนว่า สิ่งนี้จะส่งผลต่ออันดับสินค้าในระยะยาว โดยวิธีการนี้ผมเรียกว่า eCommerce SEO ซึ่งถ้าหากใครสนใจวิธีการที่จะทำให้สินค้าอยู่ติดอันดับผลการค้นหาในระยะยาว ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับ eCommerce SEO เอาไว้แล้วคุณสามารถคลิก ที่นี่ เพื่ออ่านต่อได้เลยครับ
ทุกท่านสามารถติดตามบทความและ Live พิเศษได้ที่ Facebook Group นี้ครับ https://www.facebook.com/groups/2918107295134980