กลยุทธ์และการเตรียมตัวสำหรับแคมเปญ flash sale บน Lazada/Shopee ให้มีประสิทธิภาพสุงสุด
แฟลชเซล Flash Sale ( FS ) เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดของลาซาด้าและชอบปี้ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มผู้เข้าชมสินค้าอย่างรวดเร็ว แต่ใช่ว่าใครจะทำแคมเปญแฟลตเซลแล้วจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกับธุรกิจได้ วันนี้ผมจะพา Seller ทุกท่านมาทำความรู้จักแฟลตเซลล์กันในเชิงลึก และมาแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนจัด Flash Sale กันว่าจะทำอย่างไรให้แคมเปญมีประสิทธิภาพสูงสุด
การทำงานของเฟซเซลล์ คือ การลดราคาสินค้าแบบรุนแรงภายในช่วงเวลาอันสั้น (หลักชั่วโมงหรือหลักนาที) เพื่อให้เกิดการซื้อขายที่รวดเร็ว แน่นอนว่า การลดราคาอย่างรุนแรง อาจจะทำให้สินค้าชิ้นที่เข้าร่วมไม่ได้กำไรเลย แต่สิ่งที่ได้มาคือการจัดอันดับสินค้าของทางลาซาด้าและชอบปี้ (Product Ranking) จะประเมินให้คะแนนสินค้าเราเป็นสินค้าที่น่าสนใจ และสินค้าของเราก็จะถูกแสดงให้ลูกค้าเห็นได้มากขึ้น เช่น อยู่ในอันดับ 1-10 อันดับแรก หรือ เป็นสินค้าแนะนำ
ยอมขาดทุนในช่วงแรก เมื่อหลังจากที่สินค้าผ่านช่วง Effective Flash Sale มาแล้ว สินค้าที่ติดอันดับจะสามารถสร้างยอดขายและกำไรให้เราได้อย่างสม่ำเสมอ

ด้วยความที่แฟลตเซลล์เป็นสิ่งที่ Seller ไหนๆก็อยากจะเข้าร่วม ดังนั้นในการเลือกสินค้าเข้าร่วมแฟลตเซลล์นั้นจะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดต่างๆที่ค่อนข้างละเอียด โดยในแต่ละแพลตฟอร์มของลาซาด้าและชอบปี้ก็จะมีการจัดแฟลตเซลล์ที่ต่างกัน
ลาซาด้านั้นจะต้องเป็นสินค้าที่ขายดีประจำร้านอยู่แล้วยอดขายอาจจะเดือนละ 50 ชิ้นขึ้นไป และใช้วิธีการกดเข้าร่วมแคมเปญซึ่งไม่ใช่สินค้าทุกชิ้นที่สามารถเข้าร่วมแฟลตเซลล์ได้ ทางทีมงานลาซาด้าจะมีทีมงานเฉพาะของแฟลตเซลล์เพื่อดูว่าสินค้าเหมาะสมกับการทำแฟลตเซลล์บนเว็บไซต์หรือไม่
แฟลตเซลล์บนช็อปปี้จะเป็นตัวเลือกของร้านค้าที่ร้านค้าสามารถกำหนดวันที่เวลาสินค้าราคาสินค้าได้เอง และใช้ช่องทางของตัวเองในการ promote กิจกรรมแฟลตเซลล์ ที่นี้เรามาดูกันว่าเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรถ้าเราต้องการทำแฟลตเซลล์
เนื่องจากแฟลตเซลล์เป็นกิจกรรมลดราคาที่มีเฉพาะช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งที่ร้านค้าควรเตรียมมีดังนี้
1. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเข้าร่วมแคมเปญแฟลตเซลล์ก็คือ การเลือกสินค้า บางคนจะใช้แคมเปญแฟลตเซลล์ในการระบายสินค้าที่ขายไม่ดีออกมา ในอีกมุมหนึ่ง ความหมายของสินค้าจมสต็อกนั่นคือสินค้านั้นไม่ได้เป็นที่ต้องการของคนลูกค้า การทำแฟลตเซลล์แล้วอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามที่ควรจะเป็น สินค้าควรเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการระดับหนึ่ง และคนยินดีที่จะจ่ายในราคาที่ถูกลงเยอะมากๆ ถ้าสินค้าไม่ดี สินค้าไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ต่อให้ลดราคายังไงคนก็ไม่ซื้อ
2. ร้านค้าจะต้องมีการเตรียมตัวและการปล่อย TEASER เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงการแฟลตเซลล์นี้ โดยระยะเวลา TEASER ควรจะใช้เวลาหนึ่งถึงสามถึงห้าวัน ช่วงสามวันสุดท้ายควรจะปล่อยโพสต์TEASER หรือว่าใช้โฆษณาเพื่อให้คนได้มองเห็นกิจกรรมได้ดียิ่งขึ้น

3. จำนวนสต๊อกสินค้า ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน แต่การเตรียมสต๊อกนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ประสบการณ์พอสมควรเราไม่สามารถรู้ได้ว่าสินค้าที่เราเข้าร่วมรายการ FlashSale จะขายได้จำนวนกี่ชิ้น แต่สำหรับทางลาซาด้าแล้วเค้าจะแนะนำให้เป็น 50-100 ชิ้น/SKU สำหรับสินค้าที่มีอยู่หลาย SKU ในหนึ่งเดียว เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ถุงมือ สินค้าที่มีหลายสีหลายไซส์ จะต้องใช้งบประมาณในการเติมสต๊อกตุนไว้มากอยู่ และมีความเสี่ยงในการขายเช่นกัน ดังนั้นผมจะแนะนำว่า สินค้าที่จะทำแฟลชเซลล์เป็นสินค้าที่มี SKU น้อยๆ 1-2 sub sku
4. ระยะเวลาแฟลชเซลล์ การเข้าร่วมแฟลตเซลล์ควรใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงแล้วแต่ความแรงของราคาที่ลด เช่นถ้าหากลดราคาเกิน 50 หรือ 60% ก็อาจจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง (โดยทั่วไปจะใช้เวลาทำแฟลตเซลล์ประมาณ 2 ชั่วโมง) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของร้านค้าราคาสินค้าต้นทุนสินค้าและผลลัพธ์ที่คาดหวังของร้านค้า

5. ช่วงเวลาที่จะปล่อยแคมเปญ Flash Sale สำหรับ Lazada ทีมงานจะแจ้ง time slot ให้ร้านค้าทราบก่อนว่ามีช่วงไหนบ้าง รันไปตามระบบ แต่ของ shopee สามารถเลือกเองได้ว่าจะทำช่วงไหน จากประสบการณ์ของผม ถ้าแคมเปญ flash sale นั้นน่าดึงดูดพอ สินค้าหน้าสนใจ ราคาลดแรง ช่วงเวลาควรจะเป็นช่วงที่กลุ่มลูกค้าของเราว่างและสะดวก เช่น ช่วงหลังเลิกงาน(ขนาดที่กลับถึงบ้าน กินข้าวอาบน้ำแล้ว) ประมาน 21.00- 02.00 ถ้าเป็นช่วงวันหยุดเสาอาทิตย์ก็ได้
เมื่อสิ้นสุดช่วงแคมเปญแล้ว ผมแนะนำ Seller ให้ทำการจัดส่งสินค้าโดยเร็วที่สุด หากใช้แฟลตเซลล์ของลาซาด้าและชอบปี้ระบบจะบังคับให้จัดส่งภายใน 1-2 วันทำการ เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า และแน่นอนว่าเมื่อมีคำสั่งซื้อมากขึ้น ระบบ AI ของลาซาด้าและชอบปี้ก็จะดันคะแนนสินค้าให้เป็นสินค้าที่มีผู้เข้าชมสูง แล้วส่งผลกับร้านค้าให้มีคะแนนที่ดีขึ้น และมียอดเข้าชมร้านค้าเพิ่มด้วยเช่นกัน
สิ่งที่คุณต้องรับมือหลังจากนี้ คือ อัตราการยกเลิกสินค้าจากผู้รับ ปัญหานี้เกิดขึ้นนับว่าเป็นปัญหาคู่กายสำหรับร้านค้าที่ขายใน Lazada/Shopee กันเลยทีเดียว และปัญหาเหล่านี้ยิ่งเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะช่วงที่มีแคมเปญลดราคาต่างๆ การเข้าร่วมแฟลชเซลก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่ทำให้ลุกค้าตัดสินใจซื้อด้วยความรวดเร็ว และบางครั้งลูกค้าอาจมีการเปลี่ยนใจระหว่างทางได้ (โดยเฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อแบบเก็บเงินปลายทาง Cash On Delivery: COD) ซึ่งผมได้ทดลองใช้วิธีต่างๆมาหลากหลาย จนได้เป็นบทสรุปวิธีการจัดการลูกค้ากลุ่มนี้ และสามรถลดอัตราการยกเลิกได้เกือบทั้งหมด ถ้าใครอยากรู้ คลิก อ่านต่อที่นี่ ได้เลยครับ
ทุกท่านสามารถติดตามบทความและ Live พิเศษในกลุ่ม Facebook Group ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/groups/2918107295134980