หลังจากที่ผ่าน MegaCampaign มาแล้ว.
ผมว่าหลายคนก็มียอดขายเพิ่มขึ้นกันประมาณนึง.
แต่วันนี้จะมาเตือนทุกคนครับเกี่ยวกับข้อระวังต่างๆในการเข้าร่วมแคมเปญครับ.
ที่ผมมาเล่าให้ฟังวันนี้ เกิดจาก การสรุปยอดขายช่วง 27-29 ที่ผ่านมาของร้านผม.
รายได้เพิ่มขึ้นต่อวัน จากเดิมวันละ 500-1000 บาทเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 3-4000 บาท.
แต่เมื่อมานั่งดูสินค้าเป็นรายตัวเชื่อไหมครับ มีสินค้าบางตัวที่ขาดทุนด้วยจากราคาที่ระบบให้ปรับเพื่อเข้าแคมเปญได้.เลยจะเอามาเป็นกรณีศึกษาให้เหล่า seller ทุกคนครับว่าก่อนเข้าแคมเปญต้องดูอะไรบ้าง
.1. Cost Structure#โครงสร้างต้นทุนสินค้า.
ปกติถ้าเรารับของมาขาย ส่วนใหญ่ก็จะคิดง่ายๆว่าราคาขาย ให้เอาต้นทุน x 2 เท่าเราก็จะได้กำไร 100%.
แต่ความเป็นจริงมันมีต้นทุนแฝงเยอะกว่านั้น.
#โดยเฉพาะคนที่สั่งของจากจีนมาขาย.
ไหนจะมีค่าส่งระหว่างประเทศ ค่าแพกเกจจิ้ง ค่าดำเนินการที่หักระหว่างทางต่างๆ.
บางทีกำไร 100% อาจไม่เหลือเลย .
ซึ่งในส่วนนี้ ผมจะอาจจะทำเป็นบทความ หรือ คลิปการทำตารางเพื่อเช็ตต้นทุนสินค้าที่แท้จริงให้ทุกคนในครั้งต่อๆไปครับ.
2. Discount Amount#ส่วนลดการขายในส่วนนี้ผมจะขอแยกออกเป็นสองส่วนนะครับ.
2.1 Campaign Discount ซึ่งเป็นราคาส่วนลดขึ้นต่ำที่ระบบ lazada/shopee บังคับให้ร้านค้าขายราคาต่ำลงมา.
โดยระบบจะประมวลจากผลงานการขายสินค้าด้วย AI ที่ผมมองว่ามันใช้หลักการที่ตื้นเขินมากไปหน่อย.
ถ้าเป็นสินค้าใหม่ ระบบจะให้ขายราคาส่วนลด 5% ในแคมเปญเดือนแรกและถ้ายังขายไม่ได้ หรือขายได้น้อย ระบบจะให้ขายราคาส่วนลด 10% ในเดือนถัดไป.
และถ้าสินค้าของคุณเข้าร่วมแคมเปญประจำเดือนด้วยส่วนลด 5-10% และยังไม่สามารถขายได้ หรือขายได้น้อย.
ในแคมเปญต่อไป (โดยเฉพาะ MegaCampaign) สินค้าตัวนี้จะถูกบังคับให้ลดราคามากกว่าปกติ.เบื้องต้นผมแนะนำให้คุณดูที่ Business Advisor > ยอดเข้าชม.
ถ้าสินค้าตัวนี้ขายมาแล้ว 1-2 เดือนและยอดเข้าชมยังน้อยอยู่คุณอาจจะยอมเข้าแคมเปญ ลดราคาขายตัวนี้เพื่อนำกระแสเงินสดกลับมาและเก็บเป็นทุนไว้เลือกสินค้าตัวใหม่ๆ.
หรือในเคสที่คุณเห็นว่าสินค้ามันน่าจะขายได้อยู่(มียอดเข้าชม แต่ยังไม่มียอดขาย)ถ้าราคาแคมเปญอยู่ในระดับที่รับได้ ผมแนะนำให้ลงไว้.
แต่สิ่งที่ต้องระวังอยู่ตรงนี้ครับ.ระบบเข้าร่วมแคมเปญจะมีการบันทึกส่วนลดที่เราเคยลงไว้ ในแคมเปญก่อนหน้านี้ 30-60-90 วัน.ในบางแคมเปญ ระบบจะบังคับไว้ให้เราตั้งราคาส่วนลดโดยราคาห้ามสูงกว่า ราคาที่เคยตั้งไว้ก่อนหน้านี้.
นั่นหมายความว่า หากคุณเข้าร่วมแคมเปญด้วยราคาขายที่น้อยมากๆตั้งแต่แรก.คุณต้องขายสินค้าตัวนี้ด้วยกำไรที่บางเฉียบติดต่อกันไปเรื่อยๆ.
สำหรับผู้ขายท่านไหนมีทุนหนา สามารถทำได้ครับโดยช่วงแรกก็จะได้กำไรน้อยๆ และจะเริ่มได้กำไรจากการซื้อที่ไม่ใช่ช่วงแคมเปญ.
แต่สำหรับผู้ขายที่ทุนน้อย เราอาจจะต้องเลือกสินค้าเข้าแคมเปญเพียงบางรายการเท่านั้น.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ยังแนะนำให้พยายามลงแคมเปญให้ได้เยอะที่สุดนะครับเพราะถ้าเทียบกับร้านค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมแคมเปญแล้วยอดผู้เข้าชมต่อเดือนต่างกันพอสมควร และไม่เสียโอกาสการขายด้วย.
2.2 Voucher Discountโค้ดส่วนลด.ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวนึงที่ผู้ขายพลาดบ่อยครับ.
พวกแคมเปญใหญ่ๆอย่าง birthday campaignเค้าจะมีพนักงานติดต่อร้านค้ามาขอให้สร้างส่วนลดเพิ่มในแคมเปญแจก โค้ดส่วนลด ควบคู่ไปกับแคมเปญหลัก.
จากเดิมที่ราคาส่วนลดแคมเปญก็น้อยลงแล้วยังจะต้องสร้างโค้ดส่วนลดอีกดูเหมือนจะสปอยลูกค้ามากไปหน่อยใช่ไหมครับ.
แต่จริงๆแล้ว เจ้าตัวโค้ดส่วนลดนี่แหละเป็น KEY สำคัญของลูกค้าเลย ที่จะสั่งซื้อหรือไม่ซื้อ.นิสัยลูกค้าที่ซื้อของ Lazada/Shopee ชอบความคุ้มค่าครับเน้นว่า #คุ้มค่า นะ ไม่ใช่#ของถูก เพียงอย่างเดียว.
ซึ่งเจ้าโค้ดส่วนลดนี่แหละ ลูกค้าที่กดลงตะกร้าแล้วและได้กดใช้โค้ดส่วนลด ความรู้สึกมันฟินนะรู้สึกดีกว่าได้ซื้อของราคาแคมเปญแต่ไม่มี voucher ซะอีก.
ดังนั้น ถ้าร้านไหนที่ราคาแคมเปญมันต่ำมากเกินไปผมก็แนะนำให้มาลงแคมเปญแจกโค้ดส่วนลดแทนครับ.
เพราะเอาจริงๆ สำหรับลูกค้าใหม่ๆบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าราคาช่วงแคมเปญ เป็นราคาที่ลดแล้ว.แต่การที่มีโค้ดส่วนลดให้ลุกค้าได้กดใช้มันทำให้อัตราการซื้อ Conversion% เพิ่มขึ้นด้วยครับ.
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเล่ามาทั้งหมดเริ่มจากพื้นฐานที่แข็งแรงเสมอ นั่นก็คือ โครงสร้างต้นทุนที่ดี.ซึ่งผมแนะนำไว้ตรงนี้เลยว่าการขายสินค้าด้วยราคาที่เอาต้นทุน +2เท่าเป็นไอเดียที่น่ากลัวมากครับ.
ตราบใดที่เรายังไม่รู้ต้นทุนแฝงว่ามีอะไรบ้างบางครั้งขายดีนะครับ แต่กำไรไม่รู้ไปอยู่ไหนหมด.
ฝากให้ทุกคนกลับไปทำการบ้านเรื่องต้นทุนสินค้าให้ดีนะครับหรือใครมีคำถามสามารถเม้นต์ไว้ได้เลยครับ
สามารถติดตามบทความ วีดีโอ และไลฟ์ เทคนิคการขายของ Shopee/Lazada ได้ที่ Facebook Group กดคลิกที่นี่ได้เลยครับ