ยื้อ Vs ดันทุรัง
ช่องอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้รับการติดต่อหลังไมค์พอสมควรเกี่ยวกับปัญหาการขายของออนไลน์ในตอนนี้ คือ สินค้าเดิมขายไม่ออก ทั้งๆที่ทำโปรโมชั่นก็แล้ว จับคู่สินค้าร่วมโปรก็แล้ว ลดราคาก็แล้ว Flash Sale ก็แล้วแต่สินค้าก็ยังขายไม่ออก หรือ ขายออกช้าลง
อย่างที่เรารู้กันดีครับว่าตอนนี้สถาณการณ์บ้านเมืองค่อยข้างฝืดการท่องเที่ยวเหงามาปีกว่าแล้ว ร้านอาหารคนเข้าน้อยลง ซื้อผ่านแอปแทนกำลังซื้อลดลงชัดเจนรวมไปถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนส่วนมากในตอนนี้ใช้เงินแบบ Defensive มากขึ้นพูดง่ายๆคือ อะไรที่ไม่จำเป็นและรอได้ ก็จะยังไม่จ่าย
กลับมาดูเรื่องสินค้าที่ว่าขายไม่ออกกันบ้างลองสังเกตดูครับว่า สินค้าอะไรในร้านของตัวเองที่ลูกค้าน่าจะมองว่าเป็นสินค้าที่ #รอได้และอันไหนเป็นสินค้าที่ #จำเป็น ของจำเป็น ณ ตอนนี้ไม่ได้มีแต่อุปกรณ์ Home Isolation อย่างเดียวเช่น พวกเครื่องวัดออกซิเจน เครื่องให้ออกซิเจน แมส แอลกอฮอล์หรือแม้กระทั่งฟ้าทะลายโจร กระชายขาว(กลุ่มนี้ผมมองเป็นสินค้ากระแส ที่บังเอิญว่ากระแส COVID จะอยู่กับเรานาน)
ของจำเป็นจริงๆ เป็นของที่แก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้แต่ผมจะขอแยกสินค้าแก้ปัญหาออกเป็น 2 แบบ
1. สินค้าแก้ปัญหาโดยตรงเช่น ไม้นวดคอ สำหรับคนที่นั่งทำงานนานๆแล้วปวดที่ลับมีด สำหรับคนที่ทำอาหารบ่อยๆ
2. สินค้าแก้ปัญหาโดยอ้อม คือเช่น ชั้นวางของในครัวที่มีลิ้นชักไม้ม้อปถูพื้นแบบปั่น
สังเกตว่า สินค้าแก้ปัญหาโดยตรงจะพุ่งไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทันที(ปวดคอ ก็ต้องนวดคอ)แต่สินค้าแก้ปัญหาทางอ้อม จะเป็นวิถีใหม่ในการทำบางสิ่งบางอย่างให้ง่ายขึ้น(ไม้ถูพื้นแบบเดิมก้ใช้ได้ แต่ถ้ามีไม้ถูแบบปั่นก็สะดวกขึ้น) ในสภาวะที่ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยยากขึ้น เขาจะมีการแบ่งระดับความสำคัญ Prioritize การใช้เงินกับสิ่งต่างๆของเขาไว้แล้ว สำหรับใครที่ขายสินค้าที่แก้ปัญหาโดยตรงก็ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก แต่สำหรับใครที่ขายสินค้าแก้ปัญหาทางอ้อมอันนี้คุณต้องทำการบ้านหนักขึ้น
ถ้าคุณสามารถสื่อสาร นำเสนอ ชี้ประเด็นได้ว่า สินค้าทางอ้อมจะช่วยแก้ปัญหาอะไรคุณได้ ในมุมที่มีน้ำหนักมากพอ สินค้านั้นก็มีโอกาสขายได้ดีเท่าๆกับสินค้าแก้ปัญหาทางตรง
เช่น ไม้ม็อปถูพื้นแบบปั่น ทำให้คุณไม่ต้องก้มไปซักบ่อยๆ หรือใช้แรงบีบน้ำบ่อยๆความเหนื่อยของการทำงานบ้านก็จะน้อยลง ประหยัดเวลา มีเวลาไปพักผ่อนมากขึ้น
ส่วนใครที่ขายสินค้า Priority หลังๆ จำพวกสินค้าแฟชั่นผมแนะนำให้หาลู่ทางอื่นๆไว้ทันที หรือ หาสินค้าหมวดหมู่ที่จำเป็นมากขึ้น.หลายครั้งที่เราได้ยินว่า ให้สู้นะ ต้องสู้นะแต่การสู้ในวิธีเดิมๆในขณะที่ปัจจัยต่างๆมันเปลี่ยนแปลงไปมันไม่ได้เรียกว่ายื้อครับ แต่เป็นการดันทุรังมากกว่า การสู้ตรงๆทื่อๆ ก็เหมือนเอามีดไปสู้กับปืนถ้าจะใช้มีด ก็ขอให้มีแผน มียุทธวิธีเหนือชั้นหน่อย การดันทุรังจะต่างกับยื้อเพียงนิดเดียวคือ ถ้าคุณเห็นว่าอนาคตยังพอมีโอกาสอยู่ เรียกว่า ยื้อถ้าคุณไม่เห็นอนาคตการเติบโต แต่ยังไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไร เรียกว่า ดันทุรัง
ฝากทุกคนมีสติ มองโลกตามความเป็นจริงและปรับตัวแก้ไขไปเรื่อยๆครับ
สามารถติดตามบทความแบบ Real time และดาวน์โหลด ebook ฟรีได้ที่นี่ https://www.facebook.com/groups/2918107295134980