eCommerce SEO เทรนด์ขายสินค้าออนไลน์ 2021
เหล่า Seller คงทราบกันดีว่า สินค้าออนไลน์มีอยู่ใน Marketplace ทั้งใน Lazada และ Shopee รวมกัน น่าจะมากกว่าหลัก 1,000,000,000 ชิ้น คำถามคือ เมื่อสินเค้าเยอะขนาดนี้ เหล่าผู้ขายคงเริ่มสะดุ้งนิดๆแล้วว่าลูกค้าจะเห็นสินค้าร้านของฉันได้ยังไงบ้างล่ะ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแชร์วิธีการที่จะทำให้สินค้าเราได้รับการมองเห็นมากขึ้นด้วยวิธีการเลือกใช้คำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ หรือที่เรียกว่า SEO
สรุปโดยย่อ SEO: Search Engine Optimization คือการค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพด้วยคำค้นหา ถ้าเราทำ SEO ด้วยการระบุ keyword ที่มีการค้นหาเยอะๆ มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับสินค้า หน้าแสดงสินค้าของเราหน้านั้นก็จะได้คะแนน SEO ที่ดี คนจะมีโอกาสเห็นสินค้ามากขึ้นและหน้าสินค้าของเราก็จะติดอันดับบน Google ด้วย

สำหรับอีคอมเมิร์ซแล้วนั่นหมายถึงการติดอันดับสินค้าบนลาซาด้าและชอบปี้นั่นเอง แน่นอนว่าการจัดอันดับของ Lazada และShopee จะไม่เหมือนกับการทำ SEO บนเว็บไซต์แบบทั่วไป แต่การทำ SEO บนลาซาด้าและชอบปี้จะส่งผลให้สินค้าของเราถูกแสดงขึ้นใน Search Engine หรือว่า Google ง่ายขึ้นนั่นเอง แล้วการทำ eCommerce SEO ต้องทำยังไงบ้าง วันนี้ผมมาสรุปให้ฟังดังนี้ครับ
เริ่มต้นจากคำว่า keyWord คือ คำค้นหาคำที่เกี่ยวกับสินค้า ในที่นี้สามารถระบุคำที่ใกล้เคียงกับสินค้าได้นอกจากนี้ Keyword บางคำอาจจะไม่ใช่ภาษาเขียนแต่เป็นภาษาพูด ก็สามารถเอามาเขียนได้
โดยเริ่มจากชื่อสินค้าก่อน ในช่องชื่อสินค้าจะมีพื้นที่ให้เราพิมพ์ 255 ตัวอักษร ดังนั้น เราสามารถใส่ keyword ได้ประมาณ 3-4 คำ โดยที่Keyword นั้นจะต้องเกี่ยวกับสินค้า หรืออาจจะเป็นชื่อเรียกสินค้าอีกแบบหนึ่ง
ตัวอย่างสินค้าที่ขาย : ที่นอนท็อปเปอร์
Keyword ใกล้เคียง : ที่นอน topper, ที่นอนเพื่อสุขภาพ, ที่นอนแก้ปวดหลัง
โดยคำเหล่านี้เราสามารถค้นหาได้จาก Search Bar ของ google lazada shopee ได้เลย เพราะเจ้าแพลตฟอร์มพวกนี้จะแนะนำคำค้นหาที่มีความใกล้เคียงกัน และคำที่ถูกค้นหาบ่อยๆ

ส่วนถัดมาในส่วนของรายละเอียดสินค้า ก็ควรจะมี keyword เช่นเดียวกัน แต่การเขียนรายละเอียดสินค้าที่เน้นแต่ keyWord เพียงอย่างเดียว อาจทำให้ลูกค้าหรือผู้อ่านรู้สึกแปลก อ่านแล้วไม่เข้าใจ ดังนั้น การทำ SEOในรายละเอียดสินค้าจำเป็นต้องใช้ทักษะและศิลปะในการเขียนเพื่อให้เกิดความลื่นไหลในการอ่านมากที่สุดและให้ผลลัพธ์การค้นหาดีขึ้นด้วย
ข้อแนะนำการเขียนรายละเอียดสินค้าควรจะเกริ่นด้วยปัญหาของลูกค้าก่อน เพื่อเป็นการกรองของลูกค้าด้วยว่าลูกค้ากลุ่มที่อ่านเนื้อหาเป็นกลุ่มที่มีปัญหาและสินค้าเราสามารถแก้ปัญหาได้หรือเปล่า ส่วนต่อมาก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับสินค้าได้เลยและระหว่างพี่อธิบายสินค้าก็สามารถแทรกกี่วัคำที่เกี่ยวข้องเข้าไปได้ด้วย
ณ เวลานี้ ทางลาซาด้าและชอบปี้ต่างก็ปรับเปลี่ยน โชว์สินค้าจากความสนใจเฉพาะบุคคลขึ้นมาในหน้า Feed ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน personalize feed ทำให้ ecommerce SEO นั้นไม่สามารถวัดผลได้อย่างคงที่ แต่ถึงอย่างไร การทำ Product SEO นั้นย่อมดีกว่าการไม่ทำ เพราะบางครั้งการ ecommerce SEO โดยที่เราไม่รู้ตัวนี่แหละทำให้สินค้าเราติดอันดับอยู่บนหน้า Google บนแพลตฟอร์มของลาซาด้าและชอบปี้ และที่สำคัญที่สุดคือ นี่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ร้านค้า ผู้ขายจีน ยังสามารถทำได้ไม่ค่อยดีนัก นับว่าเป็นโอกาสใหญ่ของร้านค้าไทยในการทำ Product SEO เพื่อให้สินค้าติดอันดับไปง่ายขึ้น

สรุป : ถ้าหากกรอกชื่อสินค้าแต่ Keyword เพียงย่างเดียว จะทำให้ชื่อสินค้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ศิลปะของตรงนี้ก็คือการ Word อย่างไรให้ดูเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกับการอ่าน ในส่วนของรายละเอียดสินค้าก็เช่นกันควรจะทำ SEO ด้วยแต่การเขียนให้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ในส่วนของรายละเอียดสินค้าฉบับเต็ม(ลาซาด้า) สามารถใส่รูปภาพรูปถ่ายหรือเนื้อหาสินค้าที่สามารถสร้างขึ้นได้เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเชื่อถือเชื่อมั่นร้านค้าและทำให้เกิดการสั่งซื้อที่ง่ายขึ้น รายละเอียดสินค้าที่ดีรูปที่สวยจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นถึงแม้ว่ารูปภาพเหล่านี้จะไม่มีผลกับการค้นหาโดยตรงแต่เมื่อลูกค้าเห็นถึงความน่าเชื่อถือของร้านค้าแล้วจะส่งผลต่อยอดขายได้อย่างแน่นอน
สำหรับ Shopee การใส่ # + Keyword ช่วยเพิ่มการมองเห็นได้ดีขึ้นเช่นกันครับ
ทุกท่านสามารถติดตามบทควาามและ Live พิเศษได้ในกลุ่มลับ https://www.facebook.com/groups/2918107295134980